คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน ต้องประกาศใช้ระบบ Net Metering

fd040566-re

คน ร่วมลงชื่อแล้ว

เหลืออีก คน สู่เป้าหมาย

ร่วมลงชื่อที่นี่

ร่วมผลักดันกกพ.หยุดปิดกั้นโซลาร์รูฟท็อปและสร้างความเป็นธรรมทางพลังงาน โดยการประกาศใช้ระบบ Net Metering ซื้อขายไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคาเข้าสู่ระบบ

#ค่าไฟไม่แฟร์ #ประชาธิปไตยทางพลังงาน #GreenAndJustRecovery

 

 

Net Metering - มาตรการรับซื้อไฟฟ้าจากโซลาร์รูฟระดับครัวเรือน

Net Metering เป็นระบบหักลบกลบหน่วย โดยไฟฟ้าที่ผลิตใช้เองจากโซลาร์รูฟท็อปสามารถนำมาตอบสนองการใช้อุปกรณ์ที่ใช้ไฟฟ้าในบ้านเรือน (โหลดไฟฟ้า) ได้ทันที ไฟฟ้าที่ผลิตได้ส่วนเกินเก็บเป็นเครดิตนำมาใช้หักลบกลบหน่วยได้ในรอบบิลถัดไปและมีมูลค่าเท่ากับราคาขายปลีก ในมาตรการหักลบกลบหน่วยไฟฟ้า ระบบจะอนุญาตให้กระแสไฟฟ้าที่ผลิตได้จากโซลาร์เซลล์ (ในตอนกลางวันซึ่งเจ้าของบ้านส่วนใหญ่ไม่อยู่บ้าน) สามารถไหลเข้าสู่สายส่งได้ก่อน  และในเวลากลางคืน (เจ้าของบ้านกลับมา) ไฟฟ้าจากสายส่งก็ไหลกลับเข้าบ้าน เมื่อครบเดือนก็คิดการใช้ไฟฟ้าสุทธิ (net) ตามที่ปรากฏในมิเตอร์ 

จนถึงปัจจุบัน (พ.ศ.2562) มาตรการส่งเสริมการผลิตไฟฟ้าจากแสงอาทิตย์ในประเทศไทยเน้นไปที่ระดับกิจการ (utility scale) เช่น โซลาร์ล่าฟาร์ม ซึ่งมี กลไกสนับสนุนผ่านการรับซื้อไฟฟ้าแบบ Feed-in Tariff ในขณะที่ระบบ Net-metering ยังเป็นเพียงโครงการนำร่องโดยการติดตั้งโซลาร์รูฟที่ผลิตเพื่อใช้เองและเก็บข้อมูลเพื่อประเมินผลเพราะยังคงติดอยู่ที่ระเบียบการเชื่อมต่อโครงข่ายไฟฟ้าที่ไม่อนุญาตให้มีกระแสไฟฟ้าไหลย้อนเข้าสู่ระบบ ส่วนแผนนำร่องรับซื้อโซลาร์ภาคประชาชนยังมีการจำกัดโควตา

มาตรการรับซื้อไฟฟ้าจากโซลาร์รูฟระดับครัวเรือน (Net Metering) จะนำไปสู่ ประชาธิปไตยทางพลังงาน(energy democracy) ยกระดับเศรษฐกิจครัวเรือนและลดความเหลื่อมล้ำทางสังคม 

 

Net Metering ลดภาระค่าไฟฟ้า ต้นทุนทางสุขภาพและสิ่งแวดล้อม 

ระบบหักลบกลบหน่วยไฟฟ้าจะกระตุ้นให้หลังคาว่างทั่วประเทศติดตั้งโซลาร์รูฟท็อป

- 1 ล้านหลังคาบ้านเรือนประชาชน 

-หลังคาของโรงพยาบาลขนาดใหญ่ โรงพยาบาลอำเภอ และโรงพยาบาลสร้างเสริมสุขภาพระดับตำบลรวมราว 8,170 แห่ง 

-หลังคาของโรงเรียนขนาดใหญ่พิเศษ ขนาดใหญ่ ขนาดกลางและขนาดเล็ก รวมราว 31,021 แห่งทั่วประเทศ

การผลิตไฟฟ้าจากโซลาร์รูฟท็อปดังกล่าวจะทำให้มีกำลังผลิตติดตั้งในระบบไฟฟ้า ราว 3,000 เมกะวัตต์ ประหยัดค่าใช้จ่ายของครัวเรือน โรงพยาบาล และโรงเรียน 17,139 ล้านบาทต่อปี เกิดการจ้างงานมากกว่า 50,000 ตำแหน่ง และช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก 1.48 ล้านตันต่อปีและออกไซด์ของไนโตรเจน (NOx) ซึ่งเป็นคู่หูตัวร้ายของ PM2.5 ได้ราว 804 ตันต่อปี

 

Net Metering - ตัดตอนค่าไฟไม่แฟร์และความไม่เป็นธรรมทางพลังงาน

ค่าไฟไม่แฟร์สร้างภาระให้กับประชาชนผู้ใช้ไฟฟ้า แต่สร้างกำไรมหาศาลให้กับกลุ่มทุนพลังงานฟอสซิล

เนื่องจากประเทศไทยวางแผนให้ใช้เชื้อเพลิงฟอสซิลเป็นหลักในการผลิตไฟฟ้า อีกทั้งภาระค่าไฟไม่แฟร์มาจากการวางแผนพลังงานที่ผิดพลาดตั้งแต่การพยากรณ์ความต้องการใช้ไฟฟ้าที่ทำให้ไฟฟ้าสำรองล้นเกินกว่าร้อยละ50ในปัจจุบัน และทำให้กลุ่มทุนพลังงานยังคงได้กำไรจากการไม่เดินเครื่องของโรงไฟฟ้าอยู่เช่นเดิม

 

ถึงเวลาแล้วที่ประชาชนจะต้องเข้าถึงสิทธิในการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์เพื่อใช้เอง และขายเข้าระบบเป็นลำดับแรก ด้วยระบบ Net Metering หักลบกลบหน่วยไฟฟ้า เพื่อให้เกิดการกระจายศูนย์พลังงานและสร้างประชาธิปไตยทางพลังงานให้เกิดขึ้น

 

ร่วมลงมือทำ

ทุกเสียงของประชาชนที่ลงชื่อใน petition ฉบับนี้ จะถูกส่งต่อไปยังคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ทางออนไลน์โดยทันที
และหลังการเลือกตั้งวันที่ 14 พ.ค. 66 เราจะนำทุกรายชื่อไปยื่นต่อ​​ประธานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน

#NetMeteringNow

 

Pic-04
1

ขอขอบคุณ คุณ

สำหรับการร่วมผลักดันในครั้งนี้

เราจะไม่ทำให้การเรียกร้องครั้งนี้ต้องสูญเปล่า!

2

แชร์เรื่องราวนี้กับเพื่อนของคุณ

การสนับสนุนของทุกคนทำให้การเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นได้

3

มีส่วนร่วมกับเรา

ไม่ว่าจะเป็นการลงมือทำอะไรบางอย่างเพื่อโลกของเรา ทั้งการลงชื่อสนับสนุนงานรณรงค์ หรือร่วมเป็นอาสาสมัครร่วมกิจกรรมปกป้องสิ่งแวดล้อม พลังของเราก็จะเป็นส่วนสำคัญที่จะสร้างโลกที่น่าอยู่ ยั่งยืนและปลอดภัยได้ดังที่เราต้องการ

ขออากาศดีคืนมา
มีส่วนร่วมกับเรา

ขออากาศดีคืนมา

กรีนพีซเสนอให้กรมควบคุมมลพิษยกร่างมาตรฐาน PM2.5 ในบรรยากาศสำหรับประเทศไทยขึ้นใหม่

ร่วมบริจาคกรีนพีซ
มีส่วนร่วมกับเรา

สนับสนุนกรีนพีซ

การร่วมบริจาคเงินของคุณ จะกลายเป็นพลังผลักดันในการเปิดเผยข้อมูลการทำลายสภาวะสิ่งแวดล้อมโดยไม่ใช้ความรุนแรง เพื่อให้ผู้คนได้ตระหนักถึงปัญหา และวิธีการที่จะหยุดยั้งวิกฤติดังกล่าว

NoCPTPP-Thumbnail
มีส่วนร่วมกับเรา

#NoCPTPP หยุดทำลายความมั่นคงทางอาหาร

ร่วมส่งเสียงบอกนายกรัฐมนตรี/คณะรัฐมนตรีให้ยุติการเข้าร่วมความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิก หรือ Comprehensive and Progressive Agreement of Trans-Pacific Partnership (CPTPP) ในทันที